ผู้เขียน หัวข้อ: Review : ครั้งหนึ่งในชีวิต จัดงานแต่งริมทะเลเรียบง่ายสไตล์ "ไร้คอนเซปต์"  (อ่าน 13038 ครั้ง)

ออฟไลน์ art2bempire

  • Administrator
  • ขั้น 0 : ทารก (เริ่มหัดโพสต์)
  • *******
  • กระทู้: 1
    • ดูรายละเอียด
ขอบใจน้องชายคนนี้มาก AMSEAz นายเป็นเบื้องหลังของงานนี้อย่างแท้จริง

ออฟไลน์ art2bempire

  • Administrator
  • ขั้น 0 : ทารก (เริ่มหัดโพสต์)
  • *******
  • กระทู้: 1
    • ดูรายละเอียด


ไอเดีย ตอนเริ่มสิ่งที่ผมคุยกับภรรยาเมื่อตอนแรกเริ่ม คือ เราเบื่อความจำเจภายในโรงแรม เราอยากได้อะไรที่เรียบง่าย เล็กๆ มีญาติมิตรเพื่อนสนิทมาร่วมงาน เราไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนมาร่วมงานเยอะนักเพราะมันค่อนข้างไกล จึงได้วาง concept งานแบบเรียบง่าย และหากต้องเดินทางไกลมาร่วมงานก็อยากให้รู้สึกว่ามีอะไรที่น่าจดจำ...

สถานที่ หาดเจ้าหลาว โรงแรมเจ้าหลาวทอแสงบีช จังหวัดจันทบุรี

คอนเซปต์ ของงานเราอาจจะแปลกกว่างานทั่วๆไปหลายอย่าง เช่น
เริ่มงานเร็ว เพราะเราอยากให้ภาพที่ออกมาได้บรรยากาศในช่วงก่อนตะวันลับขอบฟ้า เราเลยกำหนดเวลาเริ่มงานตั้งแต่ 16.00น.
ไม่ใช้ Backdrop เหมือนงานทั่วไป เพราะเรารู้สึกว่าแบคดรอปที่ดีที่สุด คือสิ่งที่ธรรมชาติให้ เราจึงใช้ท้องฟ้า ทะเลและพื้นทรายเป็น Backdrop ถ่ายรูปร่วมกับแขกที่มาร่วมงาน
ไม่ใช้ซุ้มเข้างาน เพราะเรารู้สึกว่าทันทีที่ทุกคนก้าวเข้ามาถึงบริเวณงาน มันคือ ทุกคนได้เข้ามาสู่งานเรียบร้อยแล้ว
น้ำผึ้งของชำร่วย เปรียบเหมือนเครื่องเติมความหวาน ไม่มีคู่ไหนที่จะอยู่กันได้นานหากไม่หมั่นเติมความหวานให้กันเรื่อยๆ
เราอยากให้ทุกคนได้สัมผัสบรรยากาศริมทะเลได้เต็มที่ จึงจัดพื้นที่เรียกได้ว่าติดขอบทราย อาหาร และพื้นที่ถ่ายรูปโดยมีท้องฟ้าทะเลสายลมเป็น Background
การ์ดเชิญ



14.00 น. ในขณะที่กำลังแต่งหน้าทำผมอยู่ ได้รับแจ้งจากทีมงาน(เพื่อนๆและพี่สาว)ว่า วันนี้ลมแรงและเมฆครึ้ม มีโอกาสสูงมากที่ฝนจะตก ณ ตอนนั้นคือเตรียมแผนสำรองแล้วว่าหากฝนตกลงมาจริงๆ ก็มอบอำนาจทีมงานตัดสินใจย้ายเข้าห้องจัดเลี้ยงได้เลย.. โชคดีที่พอเริ่มตกเย็นท้องฟ้าปลอดโปร่งไม่มีเมฆฝนแต่กลับเคลื่อนไปบังพระอาทิตย์แทนทำให้แสงท้องฟ้าวันนั้นงดงามมาก



16.00 น. ปรากฎว่ารถที่จะมารับเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปส่งที่งานมารับช้ากว่าเวลานัดหมาย แต่เราต้องใช้เวลาเดินทางจากเมืองจันท์ไปหาดเจ้าหลาวประมาณ 40 นาที แต่ในขณะนั้นทีมงานก็แจ้งมาว่าแขกกำลังทยอยมาถึงงานแล้ว ดังนั้นทันทีที่รถมาถึงจอดเทียบฟุตบาท เราก็กระโดดขึ้นรถซิ่งออกมาทันทีเลย และมาถึงทันภายในเวลา 16.30 น.

Welcome To Wedding of Art & Jang



ของชำร่วย เมื่อมาถึงงานพบว่ามีญาติ มิตรสหาย ผู้เข้าร่วมงานมารอแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก เราได้จัดโต๊ะต้อนรับ ซึ่งมีของชำร่วยเป็นขวดน้ำผึ้งขวดเล็กๆ (น้ำผึ้งสวนจิตรลดา) เป็นของที่ระทึกสำหรับผู้ที่มาเข้าร่วมงานในเย็นวันนี้












17.00 น. เมื่อถึงเวลาเหมาะสม พิธีกรซึ่งเป็นเพื่อนสนิทสมัยประถมของผมก็ได้กล่าวนำเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้ที่มาเข้าร่วมงานว่าเร็วๆนี้แหละ จะพาเข้าสู่พิธีการที่ทุกท่านจะต้องจดจำมิรู้ลืมเลยทีเดียว
Show1 เราได้จัดโชว์เปิดงานด้วยเสียงไวโอลินบาดใจ จากน้องแมงปอและน้องกันตี้ (หลานสาวและหลานชาย) ด้วยเพลง Canon in D ซึ่งเป็นเพลงโปรดตลอดกาลของผม ดึงความสนใจของทุกคนให้วางอาหาร วางช้อนมีดส้อมหันมองมาที่เวที เมื่อเพลงจบลงเท่านั้นเสียงปรบมือก็ดังขึ้น ตามมาด้วยป้ายกทั้งหลายเรียกว่าเล่นจบก็รับทรัพย์กันเละเลยทีเดียว



Show2 Wedding Presentation ได้บอกเล่าเรื่องราวของเราตั้งแต่รู้จักกัน คบกัน จนถึงวันที่เราตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน ผ่านเพลง "คู่ชีวิต" ซึ่งเราได้เลือกแล้วว่าน่าจะเป็นเพลงที่มีความหมายใกล้เคียงกับคู่ของเราที่สุด ที่ได้ผ่านช่วงเวลายากสำหรับเราสองคนมาด้วยกันจนแน่ใจแล้วว่า คนนี้แหละที่จะแก่ไปด้วยกัน "จะทุกข์ จะสุข จะป่วยไข้ หรือสบายดี จะอยู่ตรงนี้กับเธอทุกวินาที ไม่ห่างไกล ไม่ไปไหน..."

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=fQrzF9BatsQ[/youtube]

เปิดตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว ที่สุดก็ได้เวลาที่ทุกคนรอคอย เราทั้งสองจับมือเดินด้วยกันออกมาจากที่ซ่อน พร้อมๆกับเพลง Thousand Years ของ Christina Perri โดยมีคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่ายเดินเคียงข้างไปจนถึงที่ซุ้ม



ประธานกล่าวเปิดงาน
เราได้รับเกียรติจาก ดร.อาศิส อัญญะโพธ์ หรือพี่ป้อง ของพวกเราและเป็นลูกพี่ใหญ่ที่ผมเคารพ ท่านดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาแอพลิเคชั่น สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ องค์การมหาชน (EGA) มาเป็นประธานในพิธีกล่าวเปิดงานและชื่นชมบ่าวสาวครับ



ตัดเค๊ก
เราเลือกใช้เค๊กสั่งทำพิเศษ เป็นเค๊กน้ำตาลปั้นตัวการ์ตูน เพราะเราอยากให้ในทุกรายละเอียดบอกความเป็นตัวของเราทั้งสองคน การ์ตูนสองตัวนั้นจ้องตากันและกันดังเช่นเราสองคน สำหรับเราแล้วบางครั้งสายตามันสื่อความรู้สึกได้ดีกว่าคำพูดใดๆ บางเวลาเรามีวันที่ยากจะผ่านไปด้วยกัน เราไม่พูดจากัน เพียงจ้องมองกันเป็นชั่วโมง สองชั่วโมง สามชั่วโมง โดยไม่มีคำพูดใดๆ แต่เรารับรู้ได้ว่าเรายังรักกันอยู่ แล้วเราอยากจะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน..





มุมถ่ายรูป เราได้สร้างกรอบรูปตามธรรมชาติที่มีพื้นหลังคือ ฟ้าครามสายลมและท้องทะเล ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้เก็บภาพสวยๆกลับไป เรารู้สึกว่าบางครั้งภาพที่สวยงามจริงๆมันไม่ได้อยู่แค่ในกรอบสี่เหลี่ยม เราจะเห็นมันเมื่อเรามองนอกกรอบออกมา เราอยากถ่ายทอดความรู้สึกนั้นออกมาผ่านรูปที่เพื่อนๆทุกคนได้ถ่ายกลับไป






[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=KSMCtyOmDPE&feature=youtu.be[/youtube]

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=RXjD_aJ8iW8&feature=youtu.be[/youtube]








ความรู้สึก งานแต่งงานวันนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เหนือความคาดหมาย ตั้งแต่สภาพอากาศที่ทำท่าว่าฝนจะตก ไปจนถึงท้องฟ้าแสนสวยยามเย็น ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนพี่น้องทีมงานช่วยกันจัดงาน ทำให้งานออกมาดียิ่งกว่าที่เราเคยคิดไว้ซะอีก อีกทั้งมีเพื่อนมิตรสหายมาร่วมแสดงความยินดีจำนวนมากมาย ขอบคุณทุกคนมากนะครับ

-------------------------------------------------------
สุดท้ายขอบคุณช่างภาพออมสิน Nitichai Ponsri เพื่อนสนิทสมัย ม.ต้นของผม ที่ถ่ายทอดความรู้สึก อารมณ์และความทรงจำออกมาได้อย่างน่าประทับใจมากครับ

ที่มา : http://www.likeconcept.com/artjangwedding
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2016, 05:19:09 PM โดย อาร์ตทูบี »